ประวัติความเป็นมาของสถาบัน ศูนย์ศึกษาและส่งเสริมสุขภาพแพทย์แผนไทยจังหวัดลพบุรี ตั้งอยู่ภายในวัดชีป่าสิตาราม อำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี โดยอาจารย์ พันตรีเรวัติ พรหมหล่อ เป็นผู้บุกเบิกและผู้อำนวยการศูนย์ ท่านแรก และมีท่านพระครูพิพัฒนาภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชีป่าเป็นองค์อุปถัมภ์และที่ปรึกษา ศูนย์ศึกษา ฯ เริ่มดำเนินการสอนด้านแพทย์แผนไทยตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๓๐ โดย มีวัตถุประสงค์เพื่อร่วมกันพัฒนาเผยแพร่ความรู้ด้านการแพทย์แผนไทย มิให้สูญหาย อีกทั้งเพื่อนำภูมิปัญญาไทยมาประยุกต์ใช้อย่างถูกต้อง ทางสถาบันได้วางแผนจัดการหลักสูตรการเรียนการสอนโดยรวมความความคิดของคณาจารย์ในการจัดการหลักสูตรและได้มีการพัฒนาความก้าวหน้าเป็นลำดับ ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๕๔๐ ศูนย์ศึกษาและส่งเสริมสุขภาพแพทย์แผนไทยจังหวัดลพบุรี ได้เข้าโครงการความร่วมมือพัฒนาการแพทย์แผนไทยกับทางสถาบันการแพทย์แผนไทยได้ใช้หลักสูตรการเรียนการสอนด้านการแพทย์แผนไทย มาจนถึงปัจจุบัน ส่งผล ให้ผู้เรียนสามารถพัฒนาคุณภาพชีวิตได้โดยไม่ต้องเดินทางไปเรียน ที่กระทรวงสาธารณสุขเป็นการแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายและลดการสูญเสียเวลา ได้อย่างคุ้มค่าทำให้เพิ่มโอกาสและทางเลือก คุณภาพชีวิตที่ดีให้กับตนเอง วัตถุประสงค์ในการจัดตั้งสถาบัน ๑. เพื่อพัฒนาวิชาชีพของวงการการการแพทย์แผนไทย ตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ๒. เพื่อให้นักศึกษาสามารถนำความรู้ไปประกอบอาชีพไได้อย่างมีประสิทธิภาพ ๓. เพื่อให้นักศึกษามีส่วนร่วมสืบสานภูมิปัญญาไทย การแพทย์แผนไทยสู่ความเป็นสากล ๔. เพื่อให้นักศึกษามีคุณธรรมจริยธรรมและจรรยาบรรณในวิชาชีพ ๕. เพื่อให้นักศึกษาปฏิบัติตนให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติการประกอบโรคศิลปะ พ.ศ. ๒๕๔๒และพระราชบัญญัติที่เกียวข้องได้ ศูนย์ศึกษาและส่งเสริมสุขภาพแพทย์แผนไทยจังหวัดลพบุรี โทร ๐๓-๖๖๑-๒๙๑๑ คุณสมบัติของผู้เรียนแพทย์แผนไทย ๑.) หลักสูตรเภสัชกรรมไทย เวชกรรมไทย การผดุงครรภ์ไทยอายุไม่ต่ำกว่า ๒๐ ปี บริบูรณ์ ๒.) หลักสูตรการนวดไทย อายุไม่ต่ำกว่า ๑๘ ปีบริบูรณ์ ๓.) สำเร็จการศึกษาภาคบังคับ ๔.) มีร่างกายแข็งแรงไม่มีโรคที่เป็นอุปสรรคต่อการศึกษา คือทุพลภาพ วิธีการเรียนและการปฏิบัติตัวของนักศึกษา ๑. ต้องมีความตั้งใจใฝ่รู้ ใฝ่เรียน ในระหว่างการเรียนการสอน ไม่สร้างความรำคาญให้ผู้อื่น ๒. ต้องให้ความเคารพและปฏิบัติตนอย่างเหมาะสมต่อครู อาจารย์หรือวิทยากรที่มาให้ความรู้ ๓. จะต้องทบทวนความรู้ที่เรียนอย่างสม่ำเสมอหากมีข้อสงสัยให้ปรึกษาอาจารย์หรือผู้รู้ ๔. จะต้องมีเวลาเรียนไม่น้อยกว่า ๘๐ % และผ่านกิจกรรมสำคัญทีกำหนดจึงจะได้รับใบประกาศนียบัตรจากกระทรวงสาธารณะสุข ๕. ไม่สร้างความแตกแยกในหมู่คณะ เคารพสิทธิและรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่นตามวิถีทางประชาธิปไตย ๖. จัดให้มีระบบโดยเลือกประธานกรรมการของกลุ่ม เพื่อดูแลช่วยเหลือกันของสมาชิกได้อย่างมีประสิทธิภาพ สมัครได้ที่ ศูนย์ศึกษาและส่งเสริมสุขภาพแพทย์แผนไทยจังหวัดลพบุรี วัดชีป่าสิตาราม อำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี โทร.๐๓-๖๖๑ ๒๙๑๑ โทรสาร ๐๓-๖๔๒-๕๒๒๑ ขั้นตอนการสมัคร ๑. ติดต่อขอรับใบสมัครเพื่อศึกษารายละเอียด และเตรียมเอกสารหลักฐาน ๒. ขอรับใบสมัคร กรอกข้อมูลให้ครบถ้วนสมบูรณ์ ให้นำส่งเจ้าหน้าที่พร้อมแนบหลักฐานให้ครบถ้วน ตามที่สมัครเรียนในแต่ละหลักสูตร(สำเนาถูกต้องเอกสารทุกฉบับ) ๓. ชำระค่าลงทะเบียนตามที่กำหนดในแต่ละหลักสูตร ๔. ส่งเอกสารให้เจ้าหน้าที่ศูนย์ ฯ ตรวจสอบความเรียบร้อยเอกสารให้ครบถ้วน ๕. รับเอกสารการการนัดหมาย จากเจ้าหน้าที่
ลมประจำเส้นประธานสิบ กับการเกิดโรคเเละอาการต่างๆ ตามความเชื่อของคนโบราณกล่าวว่า เส้นเอ็นมีลักษณะเป็นรูให้ลมเลือดไหลไปได้ ถ้ากำเริบทำให้รุ่มร้อน เกิดความทุกข์ ถ้าเลือลมดีทำให้สุขสบาย เส้นทีสำคัญมีด้วยกัน 10 เส้น คือ อิทา ปิงคลา สุมนา กาลทารี สหัสรังษี ทุวารี จันทภูสัง รุทัง สิขินี และสุขุมัง
การบริหารเเบบไทย ท่าฤาษีดัดตนพื้นฐาน 15 ท่า การบริหารร่างกายด้วยท่าฤาษีดัดตนจะเกิดประโยชน์สูงสุด ถ้าหายใจเข้าออกอย่างถูกวิธีเเละมีความสัมพันธ์กับการยืดหดของกล้ามเนื้อ เส้นเอ็น เเละข้อต่างๆของร่างกาย ท่าที่ 1 ท่านวดบริเวณกล้ามเนื้อบนใบหน้าถนอมสายตามี 7 ท่า เป็นท่าที่ รศ.นพ.กรุงไกร เจนพาณิชย์ ใช้นวดถนอมสายตา ช่วยบริหารกล้ามเนื้อบริเวณใบหน้า ในเเต่ละท่า ให้กำหนดลมหายใจเข้า-ออกไปด้วย ท่าที่ 2 ท่าเทพพนม ท่าที่ 3 ท่าชูหัตถ์วาดหลัง ท่าที่ 4 ท่าเกียจ ท่าที่ 5 ท่าไล้คาง ท่าที่ 6 ท่านั่งนวดขา ท่าที่ 7 ท่ายิงธนู ท่าที่ 8 ท่าอวดเเหวนเพชร ท่าที่ 9 ท่าดำรงกายอายุยืน ท่าที่ 10 ท่านางเเบบ ท่าที่ 11 ท่านอนหงายผายปอด ท่าที่ 12 ท่าเต้นโขน ท่าที่ 13 ท่ายืนก้มนวดขา ท่าที่ 14 ท่านอนคว่ำพับบาท ท่าที่ 15 ท่าองค์เเอ่นเเหงนภักตร์
ในเหง้าขิงมี สารจำพวก Oleo-resin ซึ่งเป็นสารที่ทำให้มีรสเผ้ดกลิ่นหอม มีน้ำมันหอมระเหยอยู่ประมาณ 1 - 3 % ขึ้นอยู่กับวิธีปลูกและช่วงการเก็บรักษา ในน้ำมันประกอบด้วยสารเคมี ที่สำคัญคือ ซิงจิเบอรีน (Zingiberene) , ซิงจิเบอรอล (Zingiberol) , ไบซาโบลี (bisabolene) และแคมฟีน (camphene) มีน้ำมัน (oleo - resin) ในปริมาณสูง เป็นส่วนที่ทำให้ขิงมีกลิ่นฉุน และมีรสเผ็ด ส่วนประกอบสำคัญ ในน้ำมันซัน ได้แก่ จินเจอรอล (gingerol) , โวกาออล (shogaol) , ซิงเจอโรน (zingerine) มีคุณสมบัติเป็นยากัดบูด กันหืน ใช้ใส่ในน้ำมันหรือไขมัน เพื่อป้องกันการบูดหืน สารที่ทำให้ขิงมีคุณสมบัติเป็นยากันบูด กันหืนได้คือ สารจำพวกฟีนนอล ปัจจุบันทั้งในและต่างประเทศมีการนำมาใช้แก้ปวดเก๊าต์ รูมาตอยด์และใช้ต้านมะเร็งเต้านมและมะเร็งต่อมลูกหมาก ขิง Zingiber officinale Roscoe;ต้น : รสเผ็ดร้อน ขับลมให้ผายเรอ แก้จุกเสียด,ใบ : รสเผ็ดร้อน บำรุงกำเดา แก้ฟกช้ำแก้นิ่ว แก้ขัดปัสสาวะ แก้โรคตา ฆ่าพยาธิ, ดอก : รสเผ็ดร้อน แก้โรคประสาทซึ่งทำให้ใจขุ่นมัว ช่วยย่อยอาหาร แก้ขัดปัสสาวะ,ราก : รสหวานเผ็ดร้อนขม แก้แน่น เจริญอาหาร แก้ลม แก้เสมหะ แก้บิด บำรุงเสียงให้เพราะ แก้พรรดึก, ผล : รสหวานเผ็ด บำรุงน้ำนม แก้ไข้ แก้คอแห้ง เจ็บคอ แก้ตาฟาง เป็นยาอายุวัฒนะ ,แก่น : ฝนทำยาแก้คัน
หญ้าดอกขาว ( หญ้าหมอน้อย) สมุนไพร มากคุณค่านำมาลดความอยากบุหรี การนำหญ้าดอกขาว มาใช้เป็นเรื่องแปลกแม้เราจะรู้ซึ้งถึงโทษภัยของบุหรีเป็นอย่างดี แต่การตัดใจจากบุหรี ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เช่นผู้ที่สูบบุหรีเป็นอาจิณ ถ้าเราไปถามก็ต้องได้รับคำตอบว่าเลิกยาก อยากเลิกแต่ก็ทำไม่ได้เสียที ดังนั้นข่าวคราวของหญ้าดอกขาว หรือมีชื่อแตกต่างกันไปในท้องถิ่น เช่น หญ้าหมอน้อย หญ้าละออง ถั้วแฮะดิน จึงเป็นความหวัง ของผู้มีจิตใจแน่วแน่ที่ จะต้องการตัวช่วยในการเลิกบุหรี ได้ง่ายขึ้น
น้ำส้มสายชู ผสมกับน้ำผึ้ง มีประโยชน์มากมายน้ำส้มช่วยให้เลือดลมเดินได้ดีทั้งขาและแขนในตำราแพทย์แผนไทยใช้น้ำส้มสายชูเป็นน้ำกระสายยา น้ำส้มสายชูยังช่วยเพิ่มสรรพคุณของยาและเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาโรค ต่าง ๆ ได้มากมายส่วนน้ำผึ้ง ใช้ทาแผล แก้ไข้ตรีโทษและเป็นยาอายุวัฒนะรวมทั้งจัดเป็นน้ำกระสายยาด้วย
healthbe1st.com Visitbhesaj , Bonmueng Road ,Thahin ,Aumphurmueng Lopburi ,15000 ,Thailand Tel. 08-1627-9986 , โทรสาร.03-668-1504 Email: annoppb@gmail.com Website; http://www.healthbe1st.com strong> P>