การแพทย์แผนไทยเป็นการแพทย์ที่ไม่แยกจิตออกจากกาย เป็นการแพทย์องค์รวมและเป็นวิถีชีวิตไทย วิชาธรรมานามัย เป็นวิชาที่ว่าด้วยเรื่องสุขภาพ แบบองค์รวม ทั้งจิต กายและสิ่งแวดล้อม ซึ่ง ศ.นายแพทย์อวย เกตุสิงห์ เป็นผู้คิดค้น ท่านได้ให้แนวคิดที่น่าสนใจว่าเราสามารถทำให้การแพทย์แบบองค์รวมกลับคืนมาได้โดยระบบวัฒนะธรรมของเราคือ ใช้พุทธศาสนาหรือศาสนาอื่น นำมาประยุกต์ใช้ได้ คือ
หลัก 3 ประการของ วิชาธรรมานามัยได้แก่
1. กายานามัย คือป้องกันก่อนป่วย เมื่ออายุเกิน 30 ปีขึ้นไป ในทางกรแพทย์แผนไทยถือว่าธาตุทั้ง 4 เริ่มเสื่อม จำเป็นต้องดำรงค์ชีวิตด้วยความไม่ประมาท คือบำรุงชีวิตด้วยอาหารกินอย่างมีสติ การกินมุ่งที่จะจรรโลงวิถีชีวิตอย่างไรเพื่อไม่ให้เกิดความเจ็บป่วย ด้วยการการกินอย่างพอดี กินให้ถูกกับโรค ใช้หลัก มัชฌิมาปฏิปทา ในการกิน ตามทฤษฎีการแพทย์แผนไทย คือกินให้หลากหลายในรสชาติกินปลาเป็นหลัก กินผักเป็นพื้น ที่กินให้พอดีพออิ่ม โดยไม่ลืมที่จะกำจัดพยาธิ ที่อาศัยเบียดเบียนร่างกายของเราให้เจ็บด้วยโรคร้ายพื้นฐานแต่เป็นอันตรายร้ายรุนแรง เช่นเนื้องอก มะเร็ง และการอุดตันต่างในร่างกายทำให้อาจเป็นอัมพาต อัมพฤกษ และเสริมอาการให้โรคร้ายต่าง ๆ รุนแรงขึ้นโดยหาสาเหตุพื้นฐานไม่พบจากการละเลยไม่มองต้นเหตุ เล็ก ๆ แต่ร้ายแรง นอกจากนี้ยังมีการออกกำลังกายแบบไทย ๆ คือกายบริหารแบบไทย ท่าฤาษีดัดตน กายานามัย คือการปรับปรุงร่างกายให้สมดุลในเรื่องธาตุ 4 คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ
2. จิตตานามัย เป็นเรื่อง การฝึกจิต โดยใช้การนั่งสมาธิ เพื่อให้จิต เข็มแข็ง จิตมีพลัง เกิดความสุขสบาย ทำให้ความต้านทานโรคดีขึ้น มีพฤติกรรมที่ส่งเสริมสุขภาพ ไม่ตามใจตนเองด้วยกิเลส และความอยาก คือตัณหา วัดจึงเป็นที่พักใจอย่างดียิ่ง เป็นที่ฝึกจิต ฝึกสมาธิ การเข้าหาธรรมะเป็นทางออกเมื่ออยู่ในสถานการณ์ ที่บีบบังคับ ทางกายใจ หลักธรรมานามัยมิได้กีดกัน ศาสนาอื่น เราสามารถใช้หลักการพัฒนาจิตของศาสนาอื่นนำมาใช้ในข้อนี้ได้
3. ชีวิตานามัย คือการดำเนินชีวิตชอบ ด้วยทางสายกลาง มีอาชีพสุจริตย่อมมีชีวิตที่มีความสุข ผู้ที่ดำเนินชีวิตด้วยทุจริต ย่อมหวั่นไหวอยู่ตลอดเวลา จิตไม่สงบ มีความกังวลใจ
ชีวิตานามัย จึงอยู่ในหลักธรรมะซึ่งทุกชาติศาสนาล้วนแต่สอนให้คนปฏิบัติดี มีศีลธรรมคือการดำเนินชีวิตชอบ นอกจากนี้ยังรวมถึงการทำชีวิตให้อยูในธรรมชาติชอบ คือการปรับธาตุ 4 ภายนอก สร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีงาม ด้วยการปลูกต้นไม้ ไม้ผลหรือพืชที่กินได้ เพื่อนำมาเป็นอาหารผู้ที่มีเวลาว่างควรปลูกต้นไม้เพื่อสร้างความร่มเย็นให้กับสังคมโลก ความชุ่มชื้นร่มเย็นจะกลับคืนมา เราจึงควรดำเนินชีวิตอย่างมีสิ่งแวดล้อมที่ดี ความสะอาดของบ้านเรือน เครื่องแต่งกายที่สะอาดการขจัดสิ่งปฏิกูล การดูแลแม่น้ำลำธาร การปลูกต้นไม้ การปฏิบัติตัวและมีอาชีพที่เหมาะสม คือการดำเนินชีวิตชอบด้วยหลักชีวิตานามัย นอกจากการเสียสมดุลของธาตุทั้ง 4 จากปัจจัยภายนอกและภายใน ร่างกายจะทำให้เกิดการเจ็บป่วยแล้ว การปฏิบัติตัวในชีวิตประจำวันที่ไม่ถูกต้อง อาจก่อให้เกิดการเสียสมดุลของธาตุทำให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บได้เช่นกัน เช่น
1.) การกินอาหารมาก หรือน้อยเกินไป กินอาหารบูดหรือกินอาหารทีไม่เดยกิน กินอาหารไม่ถูกกับธาตุ ไม่ถูกกับโรค
2.) การฝืนอิริยาบถ ได้แก่การนั่ง ยืน เดินนอน ไม่สมดุลกัน ทำให้โครงสร้างร่างกายเสียสมดุลและเสื่อมโทรม
3.) อากาศไม่สะอาด อยู่ในที่อากาศร้อนหรือเย็นเกินไป
4.) การอด ได้แก่การอดข้าว อดนอน อดน้ำ ขาดอาหาร
5.) การกลั่นอุจจาระ ปัสสาวะ
6.) การทำงานเกินกำลังมาก หรือมีกิจกรรมทางเพศมากเกินไป
7.) มีความโศกเศร้าเสียใจ หรือดีใจจนเกืนไป ขาดอุเบกขา
8.) การมีโทสะมากเกินไป ขาดสติ
ซึ่งพฤติกรรมที่เป็นมูลเหตุก่อโรคทั้ง 8 ประการนี้ ทำให้ร่างกายเสียสมดุล และทำให้ธาตุทั้ง 4 แปรปรวนได้ จึงควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมดังกล่าวโดยใช้หลัก " ธรรมานามัย " (หากสงสัย เรื่องการ ใช้หลัก " ธรรมานามัย " ให้ย้อนกลับไปอ่านข้างต้น)
เอกสารอ้างอิง หนังสือชุมนุมแพทย์แผนไทยและสมุนไพรแห่งชาติ ครั้งที่ 5 สุขภาพดีได้ด้วยแพทย์แผนไทย
รวบรวมดัดลอกโดย พท.ภ อรรณพ ผลบุณยรักษ์